บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ onee คอนเทนต์ครีเอเตอร์ชั้นนำ ครบวงจรของประเทศไทย ได้สรุปรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ประจำปี 2566 ที่ผ่านมาว่า สามารถทำรายได้รวม 1,607.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน 13.4% และเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4.9% โดยรายได้จากธุรกิจรับจัดคอนเสิร์ตและการบริหารศิลปิน ยังคงครองแชมป์เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสูงที่สุดในไตรมาสนี้ โดยบริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 นี้ จำนวน 121.0 ล้านบาท เติบโตขึ้น 134.0% จากไตรมาสก่อน
จากที่ได้วางแผนกลยุทธ์ให้กลุ่มบริษัทฯ มี Business proposition เป็น Entertainment & Lifestyle ครบวงจร ที่มุ่งเน้นคอนเทนต์เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะเป็นแกนสร้างรายได้ทั้ง On air , Online, Copyright & Licensing และ Production Services รวมไปถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของกลุ่มบริษัทฯ ส่วนกลยุทธ์ทาง Idol Marketing ที่มีแผนสร้างศิลปินหน้าใหม่ ยังคงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยและขยายฐานสู่ระดับสากลมากขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นพัฒนาส่วนเป็น Idol Marketing ให้เป็น eco-system growth ที่ครบวงจร
นอกจากนี้ในส่วน Showbiz ที่ไม่ใช่แค่เพียงการจัดการแสดงหรือการจัด Event เพียงอย่างเดียวแต่จะมุ่งเน้นในส่วนการสร้างกลุ่ม Community และกลุ่ม Fandom ให้มากขึ้นอีกด้วย และจากโครงสร้างของกลยุทธ์ทั้งสามส่วนสำคัญคือ คอนเทนต์ครีเอเตอร์, Idol Marketing และ Showbiz ที่กล่าวมาแล้วนั้น บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเชื่อมโยงธุรกิจให้เข้ากับ Partnership และผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ในทุกช่องทาง
ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากไตรมาส 1 และจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในอนาคต ซึ่งเป็นการต่อยอดความนิยมให้ตัวศิลปินที่มาจากคอนเทนต์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่อง อาทิ รายได้จากคอนเสิร์ตและกิจกรรมที่เติบโตขึ้น 32.6% จากไตรมาสก่อน และเติบโตขึ้น 707.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้จากค่าบริหารงานและศิลปินเติบโต 65.8% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนรายได้ที่มาจากโฆษณาและเวลาออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทราว 46% ซึ่งในไตรมาส 2 มีละครที่โดดเด่นคือเรื่อง “รักร้าย” และ “ดอกหญ้าป่าคอนกรีต” นอกจากนี้ก็ยังมีสื่อรายการวิทยุที่สามารถทำรายได้เติบโตสูงกว่า 39.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สามารถเติบโตในขณะที่อุตสาหกรรมยังค่อนข้างซบเซา
สำหรับในครึ่งปีหลังปี 2566 บริษัทมีแผนในการขยายฐานเจาะกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยคอนเทนต์ในช่วงเวลาคืนวันเสาร์ของช่อง one31 คือ “Saturday Night ฟินเวอร์!!” ที่ตั้งใจให้เป็นช่วงเวลาสำหรับผลงานของศิลปิน ดารา ทั้งกลุ่ม Trendy และกลุ่ม New Gen ที่เป็นการเจาะกลุ่ม Idol Marketing ผลักดันศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว พร้อม ๆ กับการสร้างศิลปินหน้าใหม่ โดยคอนเทนต์ที่มาเปิดตัวช่วงเวลาใหม่คือ ซีรีส์ “Laws of Attraction กฎแห่งรักดึงดูด” ต่อด้วยซีรีส์ “รักไม่รู้ภาษา Love In Translation” และเมกะโปรเจกต์ “Across The Sky ลัดฟ้าล่าฝัน” ที่กำกับการแสดงโดยคุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ
สำหรับคอนเทนต์ละครในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดตัวละครโปรเจกต์ยักษ์ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท และบริษัท SBS Contents Hub ผู้นำธุรกิจสถานีวิทยุและโทรทัศน์ชื่อดังช่อง SBS ของประเทศเกาหลีใต้ ในละครเรื่อง “VIP รักซ่อนชู้” โดยได้พระเอกตลอดกาล ป้อง ณวัฒน์ มาประกบคู่กับ ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ที่นอกจากจะออกอากาศทางช่อง one31 แล้ว ยังจะมีการออกอากาศที่ประเทศจีน และอีกหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากนั้นยังมีละครฟอร์มยักษ์ผลิตภายใต้กลุ่มบริษัทที่ออกอากาศใน ครึ่งปีหลังในช่องทางต่างๆ อาทิ “พนมนาคา” , “บุหงาส่าหรี” , “ชีวิตภาค2” ละครดราม่าเผ็ดร้อน “ทองประกายแสด” , “One Night Stand คืนเปลี่ยนชีวิต” และ ละครบอยเลิฟเรื่องแรกของค่าย CHANGE2561 เรื่อง“PIT BABE The Series” รวมไปถึง ซีรีส์ “Enigma – คน มนตร์ เวท”, The Jungle – เกมรัก นักล่า บาร์ลับ จาก GMM TV เป็นต้น
ทั้งนี้ถือได้ว่าการดำเนินงานของกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ในครึ่งปีแรก 2566 นี้ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกลยุทธ์หลัก 3 ส่วนสำคัญที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี คือ คอนเทนต์ครีเอเตอร์, Idol Marketing และ Showbiz นั้น สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและLifestyle ทุกรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังเป็นการตอกย้ำการสร้างจุดยืนที่แตกต่างและเห็นถึงสัญญาณบวกในการสร้างรายได้จากช่องทางที่แตกต่างและเป็น eco system ภายในกลุ่มบริษัทอย่างแท้จริง และถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ครึ่งปีหลัง 2566 นี้ จะเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน.